logo
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับสมาคม
  • ประเภท/สิทธิประโยชน์ของสมาชิก
  • เอกสารดาวน์โหลด
  • แหล่งข้อมูล
  • FAQ
  • ติดต่อเรา
Previous Next
แหล่งข้อมูล
  • ประกาศสมาคม
  • ข่าวสมาคม
  • กิจกรรมสมาคม
  • เอกสารเผยแพร่
  • วิดีโอ
  • หน่วยงานพันธมิตร
บทความ: บริหารจัดการเงิน

แนวคิดสุขนิยมกับการใช้บัตรเครดิต

โดย ณิชาภา เลี้ยงบุตร นักวางแผนการเงิน CFP® ,IP
เผยแพร่ ณ วันที่ 11 มิ.ย. 2566

สุขนิยม คือ ทฤษฎีทางจริยศาสตร์ที่มีแนวคิดว่า ความสุขเป็นสิ่งที่มนุษย์ควรแสวงหา เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าคือเรื่องจริง แต่ขณะเดียวกันถ้าเราลุ่มหลงและสำราญทางวัตถุมากไปอาจทำให้เกิดความทุกข์ได้ ความสุข (บางส่วน) เกิดจากการจับจ่ายใช้สอย ยิ่งยุคนี้เป็นสังคมไร้เงินสด เพราะนอกจากรูดบัตรเครดิตแล้ว เพียงแค่การสแกนมือถือผ่านแอพพลิเคชั่นก็สามารถใช้จ่ายสะดวกและง่ายขึ้น รวมถึงหลายคนอาจติดกับดักทางการเงินด้วยการใช้บัตรเครดิต อีกทั้งยังมีโปรโมชั่นผ่อน 0% มีส่วนลด มีเงินคืน มีคะแนนสะสม เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจผู้บริโภค ทำให้การใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตมีความสุขมากกว่าจ่ายด้วยเงินสด

ประการแรก : เป็นการสร้างความสุขเพราะได้สินค้ามาใช้โดยไม่ต้องรอให้มีเงินเพียงพอที่จะจ่ายด้วยเงินสด เช่น โทรศัพท์มือถือ แท๊บเล็ต กระเป๋าแบรนด์เนม เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น

ประการที่สอง : การจ่ายเงินสดจะรู้สึกว่าเสียดายเงินมากกว่าจ่ายด้วยบัตรเครดิต เช่น ถ้าต้องถอนเงินสดซื้อแท๊บเล็ตมูลค่า 30,000 บาท ก็คงจะรู้สึกเสียดายเงิน แต่ถ้าจ่ายบัตรเครดิตแบบผ่อน 0% 10 เดือน จะทำให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายกว่า

บัตรเครดิต คือ สินเชื่อบุคคลประเภทหนึ่งที่สถาบันการเงินออกให้ลูกค้า เพื่อใช้แทนเงินสด ซึ่งจะมีระยะเวลาที่ปลอดดอกเบี้ยประมาณ 45 – 55 วัน ขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินผู้ออกบัตร หากชำระคืนไม่ตรงเวลาหรือไม่เต็มจำนวนจะต้องเสียดอกเบี้ย 16% ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 0.25% ถ้าใช้บัตรและสามารถชำระได้ตรงเวลาจะเกิดประโยชน์ทางอ้อมอีกด้วย เช่น ได้ส่วนลด, นำคะแนนสะสมไปแลกสินค้าต่าง ๆ เช่น แลกตั๋วเครื่องบิน เครื่องใช้ไฟฟ้า บัตรกำนัลร้านค้า เป็นต้น แต่ถ้าชำระไม่ตรงเวลาหรือชำระแค่บางส่วน ยอดค้างชำระจะกลายเป็นเงินกู้ที่ต้องนำมาคิดดอกเบี้ยทันที โดยธนาคารคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิต ดังนี้

ตัวอย่าง วันที่ 1 มกราคม ซื้อแท๊บเล็ตด้วยบัตรเครดิต มูลค่า 30,000 บาท ธนาคารสรุปยอดใช้จ่ายทุกวันที่ 25 ของเดือน กำหนดชำระทุกวันที่ 10 ของทุกเดือน อัตราดอกเบี้ย 16%
กรณีที่จ่ายขั้นต่ำ 3,000 ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์
ดอกเบี้ยส่วนที่ 1 คิดจากค่าใช้จ่ายทั้งหมด (ตั้งแต่วันที่บันทึกรายการถึงวันที่สรุปยอด)
    = ค่าใช้จ่าย*อัตราดอกเบี้ยต่อปี*จำนวนวันที่ทำรายการถึงวันที่สรุปยอดบัญชี/จำนวนวันใน1ปี
    = (30,000*16%*25)/365 = 328.77
ดอกเบี้ยส่วนที่ 2 คิดคงค้าง ตั้งแต่วันที่ชำระขั้นต่ำถึงวันที่สรุปยอดเดือนถัดไป
    = ค่าคงค้าง*อัตราดอกเบี้ยต่อปี*จำนวนวันที่ทำรายการถึงวันที่สรุปยอดบัญชี/จำนวนวันใน1ปี
    = (27,000*16%*16)365 = 189.40
ดังนั้นในรอบบิลถัดไปจะถูกเรียกเก็บ = เงินคงค้าง + ดอกเบี้ยทั้ง 2 ส่วน
    = 27,000 + 328.77 + 189.40 = 27,518.17

กับดักที่หน้ากลัวที่สุด คือ โปรโมชั่นใช้เครดิตกรณีผ่อน 0% ซึ่งมีข้อแนะนำ คือ
1.ซื้อของที่จำเป็นเท่านั้น
2.มีบัญชีธนาคารไว้สำหรับชำระคืนบัตร ทุกครั้งที่ใช้บัตรให้โอนเงินมาไว้ที่บัญชีนี้เลย
3.ยอดผ่อน 0% ต่อเดือนไม่ควรเกิน 15-20% ของรายได้
อัตราส่วนแสดงการชำระคืนหนี้สินที่ไม่ใช่การจดจำนองจากรายได้
= การชำระหนี้สินไม่รวมภาระจดจำนองต่อเดือน/รายรับรวมต่อเดือน
ดังนั้น ทุกครั้งที่ใช้บัตรเครดิตควรประเมินก่อนว่าสามารถชำระคืนได้ตรงเวลาและเต็มจำนวน มิฉะนั้นจะทำให้ผู้ใช้บัตรเข้าไปสู่วงจรดอกเบี้ยบัตรเครดิตซึ่งเข้าง่ายแต่ออกยากเหลือเกินเพราะดอกเบี้ยมหาโหด
อ้างอิง : เว็บไซต์ KTC , หลักสูตรวางแผนการเงินชุดวิชาที่ 1 การวางแผนการเงิน

 

ติดตามความรู้และข่าวสารสมาคมนักวางแผนการเงินไทย ได้ที่ LINE@cfpthailand, สมาคมนักวางแผนการเงินไทย Facebook Fanpage และ www.tfpa.or.th

 

ติดตามข่าวสารของสมาคมได้ทาง

   ประกาศความเป็นส่วนตัวการใช้งานคุ๊กกี้        ประกาศความเป็นส่วนตัว        แผนผังเว็บไซต์
สงวนลิขสิทธิ์ 2560 สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
CFP®,CERTIFIED FINANCIAL PLANNER™, and are trademarks owned outside the U.S. by Financial Planning Standards Board Ltd.
Thai Financial Planners Association is the marks licensing authority for the CFP marks in Thailand, through agreement with FPSB.

สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
ชั้น 6 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
93 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง
กรุงเทพมหานคร 10400

โทรศัพท์: 0 2009 9393
Website: www.tfpa.or.th