logo
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับสมาคม
  • ประเภท/สิทธิประโยชน์ของสมาชิก
  • เอกสารดาวน์โหลด
  • แหล่งข้อมูล
  • FAQ
  • ติดต่อเรา
Previous Next
แหล่งข้อมูล
  • ประกาศสมาคม
  • ข่าวสมาคม
  • กิจกรรมสมาคม
  • เอกสารเผยแพร่
  • วิดีโอ
  • หน่วยงานพันธมิตร
บทความ: ลงทุน

จัดพอร์ตลงทุนยังไง ไม่ให้หลอกตัวเอง

โดย จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์ ที่ปรึกษาการเงิน AFPTTM

เผยแพร่วันที่ 24/03/2567

 

“หากถามว่า กองทุนที่ถืออยู่ติดลบหรือไม่” เชื่อว่าในช่วงตลาดผันผวน กองทุนรวมที่ถืออยู่จะมีผลงานที่ไม่ค่อยประทับใจนัก หรืออาจถึงขั้นขาดทุน”

ถ้าพอร์ตกองทุนรวมขาดทุนขอแนะนำว่า ทุกปัญหามีสาเหตุ เช่น อาการนี้อาจมาจากการหลอกตัวเองในตอนเริ่มต้น หรือไม่รู้ใจตัวเองว่าจริง ๆ แล้ว ตัวเองรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้มากแค่ไหน   

ก่อนจะเริ่มลงทุน ทุกคนต้องผ่านด่านแรก คือ การทำแบบประเมินความเสี่ยงการลงทุน ซึ่งสิ่งที่แบบประเมินถาม มีทั้งเรื่อง อายุ ภาระการเงินที่มี สถานภาพการเงิน ประสบการณ์ลงทุน ความจำเป็นในการใช้เงินลงทุน รวมถึงความสามารถในการยอมรับความเสี่ยงกรณีลงทุนไปแล้วขาดทุน

โดยหลัก ๆ เรื่องอายุ ภาระการเงิน สถานภาพการเงิน ประสบการณ์ลงทุน และความจำเป็นในการใช้เงินลงทุน สามารถตอบตรงความจริงได้ แต่สำหรับประเด็นความสามารถในการยอมรับความเสี่ยงและผลขาดทุน เป็นสิ่งที่ต้องประเมินความรู้สึกส่วนตัวอย่างตรงไปตรงมา

หลายครั้ง (หลายคน) อาจมีเป้าหมายในใจก่อนจะไปลงทุน เช่น เห็นเพื่อนลงทุนแล้วได้กำไรสูง ก็ตัดสินใจลงทุนตาม แต่ กองทุนนั้นมีระดับความเสี่ยงสูง เช่น กองทุนรวมต่างประเทศ ดังนั้น ช่วงที่ทำแบบประเมินจึงประเมินว่าตัวเองรับความเสี่ยงได้สูง ๆ  เพราะถ้าประเมินว่ารับความเสี่ยงได้ต่ำ จะไม่สามารถลงทุนในกองทุนความเสี่ยงสูง ๆ ได้

อย่างไรก็ดี เมื่อเข้าสู่โลกของการลงทุนจริงสิ่งที่เจอ คือ เมื่อกองทุนที่ลงทุนมีผลขาดทุน ปรากฎว่าเกิดความเครียด จะเป็นลม ข่มตานอนไม่ได้ กลัวว่าตื่นมาวันรุ่งขึ้นจะเห็นตัวเลขขาดทุนมากขึ้น พูดง่าย ๆ คือ หลอกตัวเองมาตั้งแต่ต้นว่ารับขาดทุนหนัก ๆ ได้ เพราะต้องการกำไรสูง ๆ

 

คำแนะนำ

มือใหม่เพิ่งลงทุน

ขอแนะนำให้ตั้งใจทำแบบประเมินความเสี่ยงการลงทุน ตั้งสติ ค่อย ๆ ทำแบบประเมิน โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกว่า รับขาดทุนได้แค่ไหน

ขอให้นึกภาพดี ๆ อย่าให้ภาพกำไรสูง ๆ ที่ฝันเอาไว้มาบังตา และมองในมุมกลับกันด้วย เพราะโลกของการลงทุนไม่ได้เข้ามาแล้วได้กำไรอย่างเดียว แต่สามารถขาดทุนได้ด้วย ซึ่งปกติกำไรจะได้สูงเท่าไหร่ ก็รับได้เต็มที่ แต่คำถาม คือ รับขาดทุนได้แค่ไหน

อาจเปรียบเทียบกับเงินในกระเป๋าของตัวเอง สมมติวันนี้มีเงิน 10,000 บาท เอาไปลงทุน ผ่านไปไม่ถึง 1 ปี เห็นมูลค่าเงินลงทุนในกองทุนรวมเหลือแค่ 8,000 บาท หรือเหลือแค่ 5,000 บาท รับได้หรือไม่ แล้วก็ตอบแบบประเมินไปตรง ๆ

เมื่อทราบแล้วว่าตัวเองรับความเสี่ยงได้แค่ไหน เวลาลงทุน ก็แนะนำให้เลือกลงทุนกองทุนรวมในระดับความเสี่ยงที่ตัวเองยอมรับได้

แต่หากมองว่า ต้องการเปิดใจลงทุนกองทุนความเสี่ยงสูงกว่าระดับที่ตัวเองรับไหว ก็ควรลงทุนแบบจัดพอร์ต ด้วยการลงทุนกองทุนรวมหลาย ๆ ประเภทสินทรัพย์ แต่ควรลงทุนในกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงต่ำในสัดส่วนมาก โดยถ้าอยากมีกองทุนที่ความเสี่ยงสูงกว่าระดับที่ตัวเองรับได้ ก็ควรใส่เงินเข้าไปในระดับไม่มาก เพราะเมื่อมีผลขาดทุนก็ไม่เสียใจ และพอคำนวณเป็นพอร์ตลงทุนโดยรวมความเสี่ยงไม่สูงเกินกว่าที่รับได้

ที่สำคัญ เวลาที่นั่งดูผลการดำเนินงาน แนะนำให้เน้นดูเป็นพอร์ตโดยรวม แทนที่จะไปเพ่งมองแต่ละกองทุน เพื่อความสบายใจ 

 

มือเก๋า

ก็จงจำไว้ว่า “พรุ่งนี้ไม่สาย” ในเมื่อประเมินพลาดไปแล้ว สิ่งที่ทำได้ คือ ประเมินตัวเองใหม่อีกครั้ง แล้วก็ปรับพอร์ตลงทุนให้สอดคล้องกับความเสี่ยงที่ใจรับไหวจริง ๆ

ในการปรับพอร์ตลงทุน อาจไม่ได้หมายความว่า ให้ตัดใจขายทิ้งกองทุนรวมความเสี่ยงสูงที่ขาดทุนหนัก ๆ ทั้งหมด แล้วไปเริ่มต้นใหม่กับกองทุนที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า เพราะเชื่อว่าถ้าทำแบบนี้ หลายคนน่าจะน้ำตาตกใน และพาลไม่อยากเข้าไปลงทุนใหม่อีกแล้ว ไม่ว่าจะเสี่ยงน้อยแค่ไหน

วิธีที่น่าจะช่วยได้คือ ในการลงทุนเพิ่มใหม่ ๆ ก็ให้ใส่เงินลงทุนไปในกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงต่ำ เพื่อที่เวลาดูความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตลงทุนแล้วจะได้ลดระดับลงมา อยู่ในระดับที่รับได้แปลว่า ยังมีหวังกับกองทุนความเสี่ยงสูงที่ขาดทุนหนั กๆ ว่าจะเห็นการกลับมาทำกำไร แต่ต้องเชื่อในนโยบายการลงทุนของกองทุนความเสี่ยงสูงนั้นด้วยว่า มีอนาคตจริง ๆ

 

เหรียญมีสองด้าน การลงทุนก็มีสองด้านเหมือนกัน ทำกำไรได้ ก็ขาดทุนได้ ดังนั้น ก่อนจะโยนเหรียญการลงทุน ต้องทำความเข้าใจประเด็นนี้ก่อน และอย่าให้ความโลภ อยากได้ผลตอบแทนสูง ๆ มาบังตา จนหลอกตัวเองว่า รับความเสี่ยงได้สูง ถ้าในความเป็นจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น

ที่สำคัญ เวลาประเมินความเสี่ยงจงมองที่ตัวเองให้ดี อย่าทำตามเพื่อนบอก เพราะหากพอร์ตลงทุนมีความแตกต่างกัน หรือระดับความเสี่ยงแตกต่างกัน ผลตอบแทนอาจต่างกันด้วย

ติดตามข่าวสารของสมาคมได้ทาง

   ประกาศความเป็นส่วนตัวการใช้งานคุ๊กกี้        ประกาศความเป็นส่วนตัว        แผนผังเว็บไซต์
สงวนลิขสิทธิ์ 2560 สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
CFP®,CERTIFIED FINANCIAL PLANNER™, and are trademarks owned outside the U.S. by Financial Planning Standards Board Ltd.
Thai Financial Planners Association is the marks licensing authority for the CFP marks in Thailand, through agreement with FPSB.

สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
ชั้น 6 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
93 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง
กรุงเทพมหานคร 10400

โทรศัพท์: 0 2009 9393
Website: www.tfpa.or.th