บทความ: เกษียณ
“เกษียณก่อน เกษมสุข” หรือ “เกษียณฉับพลัน วันเกษมสูญ”
ข่าวธนาคารใหญ่แห่งหนึ่งประกาศโครงการ early retire สำหรับพนักงานที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป เหตุผลที่กล่าวๆกันมา ก็คือ การเข้ามาของ AI ทำให้องค์กรต่างๆ ปรับโครงสร้างเพื่อลดค่าใช้จ่าย กรณีทำเอามนุษย์เงินเดือนหลายคนตกใจว่า “AI มาแทนคนเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?” เกษียณอายุ 45 จะเป็นบรรทัดฐานใหม่ของอายุเกษียณ หรือ เป็นเพียงจดหมายเตือนถึงมนุษย์เงินเดือนที่เดิมมองว่าเป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงต่ำ กลับเป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงสูง
จะเป็นบรรทัดฐานอายุเกษียณใหม่หรือไม่คงไม่มีใครตอบได้ชัดเจน ณ วันนี้ แต่ที่แน่ๆ คือ จดหมายเตือนมนุษย์เงินเดือนอย่าประมาท อย่าชะล่าใจ อย่างสุภาษิตธิเบต “พรุ่งนี้กับชาติหน้าไม่มีใครรู้ว่าอะไรมาถึงก่อน” เราอาจตายวันไหนก็ไม่รู้ ทำนองเดียวกัน เราจะตกงานวันไหนก็ไม่รู้
อายุงานที่สั้นลง แต่อายุขัยกลับยาวขึ้นสะท้อนความเสี่ยงที่เห็นง่ายๆในมุมของสัดส่วนชีวิตที่แต่เดิม คือ
20:40:20 คือ เรียนหนังสือ 20 ปี ทำงาน 40 ปี เกษียณ 20 ปี อายุขัยรวม 80 ปี
แปลว่า เรามีระยะเวลาทำงานหาเงิน 40 ปี แต่ต้องบริหารเงินให้พอใช้ 60 ปี (คือช่วงทำงาน 40 ปีก็ต้องใช้เงิน + ช่วงเกษียณ 20 ปี) ถ้าเอาระยะเวลาใช้เงิน/ระยะเวลาหาเงิน = 60/40 = 1.5 คิดง่ายๆ คือ ทุก 1 เดือนที่เราหาเงิน เราต้องบริหารให้พอใช้ 1.5 เดือน (ยังไม่คิดเรื่องเงินเฟ้อ)
ปัจจุบันอายุขัยยาวขึ้น ทำให้สัดส่วนชิวิตเปลี่ยน เป็น
20:40:40 คือ เรียนหนังสือ 20 ปี ทำงาน 40 ปี เกษียณ 40 ปี อายุขัยรวม 100 ปี
แปลว่า เรามีระยะเวลาทำงานหาเงิน 40 ปี แต่ต้องบริหารเงินให้พอใช้ 80 ปี (คือช่วงทำงาน 40 ปีก็ต้องใช้เงิน + ช่วงเกษียณ 40 ปี) ถ้าเอาระยะเวลาใช้เงิน/ระยะเวลาหาเงิน = 80/40 = 2 คิดง่ายๆ คือ ทุก 1 เดือนที่เราหาเงิน เราต้องบริหารให้พอใช้ 2 เดือน (ยังไม่คิดเรื่องเงินเฟ้อ) ภาระทางการเงินยิ่งหนักมากขึ้นไปอีก
และแล้ว กฎของ Murphy (ในภาวะที่เลวร้ายที่สุด สิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นเกิดขึ้นเสมอ) ก็ทำงาน อายุงานเราอาจสั้นกว่า 40 ก็เป็นไป อย่างกรณีนี้เตือนเราว่าอายุงานเราอาจมีแค่ 25 ปี (เริ่มงานอายุ 20 เกษียณ 45) ถ้าเอาระยะเวลาใช้เงิน/ระยะเวลาหาเงิน = 80/25 = 3.2 คือ ทุก 1 เดือนที่เราหาเงิน เราต้องบริหารให้พอใช้ 3.2 เดือน (ยังไม่คิดเรื่องเงินเฟ้อ) ภาระทางการเงินยิ่งหนักมากๆๆๆๆๆๆขึ้นไปอีก
ถือว่าพวกเรายังโชคดี ได้รับจดหมายเตือน จะเตรียมพร้อมอย่างไรดี
ศึกษาเรื่องการลดค่าใช้จ่าย
ลดภาษีที่ต้องเสีย
- บริหารภาษีเงินได้ครั้งเดียวเพราะออกจากงาน เงินได้พึงประเมินที่นายจ้างจ่ายให้ครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงาน ได้แก่ เงินได้จากระบบบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กบข. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินก้อนที่ได้จาก early retire ฯลฯ ที่นายจ้างบางที่จ่ายให้มากกว่าเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงานอีก
สรุปง่ายๆ ก็คือ ออกจากงานไม่ว่าสาเหตุไหนก็ตาม ถ้าอายุงานไม่ต่ำกว่า 5 ปีเต็ม ก็สามารถแยกยื่นเงินได้ครั้งเดียวเพราะออกจากงานในใบแนบได้ ซึ่งจะช่วยลดภาษีที่ต้องเสียไปได้เยอะ
ลดค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการ
สวัสดิการที่เคยมีอย่างเช่น สวัสดิการรักษาพยาบาล ก็หายไป แต่เรายังมีโอกาสเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่ ทำไงดี มี 2 ทางเลือก
- ประกันสังคม หรือ บัตรทอง
เราอาจเลือกต่อประกันสังคมมาตรา 39 เพื่อรักษาสวัสดิการรักษาพยาบาล และเป็นการออมเงินเพื่อใช้ยามเกษียณ หรือจะใช้สิทธิบัตรทอง (สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) ก็ได้ วันนี้เลยจะมาเทียบให้ดูและพิจารณากันเองเลยนะว่า บัตรทอง กับ ประกันสังคม อะไรดีกว่ากัน
บัตรทอง
- ไม่มีค่าใช้จ่าย ใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง และไม่มีวงเงิน เพียงลงทะเบียนเลือกหน่วยบริการหรือสถานพยาบาลประจำตัวแล้วใช้สิทธิได้ทันทีโดยใช้บัตรประชาชนใบเดียว
- ใช้กับสถานพยาบาลประจำที่ลงทะเบียนไว้ หรือเจ็บป่วยต่างพื้นที่เข้าสถานพยาบาลปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ สังเกต “โลโก้ 30 บาทรักษาทุกที่” เพื่อเข้ารับบริการได้ และยังสามารถเข้ารับบริการสาธารณสุขวิถีใหม่ได้ที่ ร้านยาชุมชนอบอุ่น คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น คลินิกเทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่น คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น คลินิกกายภาพบำบัดชุมชนอบอุ่น คลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น
- เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติถึงแก่ชีวิต (สีแดง) เข้าสถานพยาบาลรัฐและเอกชนที่อยู่ใกล้ (สิทธิ UCEP เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิทุกที่)
- มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย ปรึกษาเภสัชกรและรับยาที่ร้านยากว่า 1,700 แห่งที่เข้าร่วมได้ทั่วประเทศ หรือที่คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่นกว่า 1,000 แห่งที่เข้าร่วมได้ทั่วประเทศ หรือ พบหมอออนไลน์ รอรับยาจัดส่งถึงบ้านได้ ในพื้นที่ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล 5 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ สมุทรสาคร
ประกันสังคม (ผู้ประกันตน)
- ประกันสังคม ต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุนทุกเดือน ตามเงื่อนไขจึงจะสามารถใช้สิทธิได้
- ใช้กับโรงพยาบาลที่เลือกสิทธิไว้ (อาจเป็นโรงพยาบาลเอกชนก็ได้) กรณีฉุกเฉินเข้าที่ไหนก่อนก็ได้โดยไม่ต้องสำรองจ่าย
- ใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ไม่มีวงเงิน และไม่เสียค่าใช้จ่ายครอบคลุมการบริการทางการแพทย์และสาธารณสุข สร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ตรวจวินิจฉัยโรค การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสมรรถภาพที่จำเป็น
เพิ่มรายได้
แหล่งเงินได้ยามเกษียณมนุษย์เงินเดือน
- แหล่งเงินได้จากระบบ
- กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (ผลตอบแทนไม่ต้องเสียภาษี) สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่มีอายุตัวตั้งแต่ 55 ปีบริบูรณ์ และเป็นสมาชิกกองทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปีต่อเนื่องกัน เงินจากกองทุนทั้งก้อนไม่ต้องเสียภาษี และนอกจากจะเอาเงินออกทั้งก้อน สมาชิกกองทุนสามารถเลือก คงเงินไว้ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ ขอรับเงินเป็นงวดได้
(ข้อควรคำนึง จะได้รับยกเว้นภาษีต่อเมืออายุ 55 ปีบริบูรณ์ อายุสมาชิก 5 ปีบริบูรณ์)
- กรณีชราภาพ กองทุนประกันสังคม (ผลตอบแทนไม่ต้องเสียภาษี)
สิทธิประโยชน์กรณีชราภาพที่ผู้ประกันตนมาตรา 33 หรือ 39 จะได้รับจะต้องเข้าเงื่อนไข อายุครบ 55 ปี และความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง หรือเมื่อเป็นผู้ทุพพลภาพหรือเสียชีวิต สิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ มี 2 แบบขึ้นอยู่กับว่าเรามีอายุสมาชิกประกันสังคมมากี่เดือน ถ้าต่ำกว่า 180 เดือนก็จะได้ “บำเหน็จชราภาพ” ถ้าตั้งแต่ 180 เดือนขึ้นไป ก็จะได้ “บำนาญชราภาพ”
บำเหน็จชราภาพ ต่างกับ บำนาญชราภาพ อย่างไร จำง่าย “บำเหน็จ” รับแล้วเสร็จ คือ รับก้อนเดียวจบ ส่วน “บำนาญ” คือ รับนานๆ รับเป็นงวดๆทุกเดือนจนกว่าจะตาย
(ข้อควรคำนึง จะได้รับผลประโยชน์กรณีชราภาพต่อเมืออายุ 55 ปีบริบูรณ์)
แหล่งเงินได้จากการออม
- กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) หากขายคืนเมื่ออายุ 55 ปีบริบูรณ์ และถือหน่วยลงทุนอย่างน้อย 5 ปี นับจากวันที่ซื้อครั้งแรก ผลประโยชน์จาก RMF ทั้งหมดยกเว้นภาษี
- ประกันบำนาญมีการกำหนดช่วงอายุของการจ่ายผลประโยชน์เงินบำนาญเมื่อผู้มีเงินได้มีอายุตั้งแต่ 55 ปี ขึ้นไป ถึงอายุ 85 ปี หรือกว่านั้น และผู้มีเงินได้ต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยครบถ้วนแล้วก่อนได้รับผลประโยชน์เงินบำนาญ ผลประโยชน์ที่ได้รับทั้งหมดยกเว้นภาษี
การวางแผนการเงินเพิ่มเติม
แนวคิดเตรียมพร้อมสำหรับเกษียณก่อนกำหนด คือ แนวคิด FIRE
แนวคิด FIRE หรือ Financial Independence, Retire Early คือ การมีอิสรภาพทางการเงินและการเกษียณอายุก่อนกำหนด (อายุ 60 ปี)
หลักการสำคัญของ FIRE:
เหมือนนักกีฬาเข้าค่ายฝึกตัวระยะสั้นๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขัน แนวคิด FIRE เหมือนเราเข้าค่ายชีวิตฝึกตัวเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันในเกมชีวิตระยะยาว โดยคู่แข่งของเราคือ ค่าใช้จ่าย เราจะสร้างความแข็งแกร่งด้านรายได้ได้อย่างไรในระยะเวลาสั้นๆไม่นาน 40 ปีแบบก่อน
- มีวินัยในการออมอย่างเข้มข้น: การประหยัดค่าใช้จ่ายและลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นอย่างจริงจัง เพื่อเพิ่มสัดส่วนเงินออมให้มากขึ้น
- การลงทุนอย่างชาญฉลาด: การนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น หุ้น กองทุนรวม หรืออสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาว
ประโยชน์ของการใช้แนวคิด FIRE:
- เรามีอิสระในการใช้ชีวิตยามเกษียณมากขึ้น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเงิน
- มีเวลามากขึ้น:ได้ใช้ชีวิตตามความฝัน หรือทำกิจกรรมที่ชอบ โดยไม่ต้องทำงานประจำจนถึงอายุ 60 ปี
ข้อควรระวัง:
- การโหมเก็บเงินอย่างหนักแบบนักกีฬาเข้าค่าย อาจทำให้เกิดความเครียดได้ เราจึงควรจัดสรรเวลาให้สมดุลระหว่างการทำงาน การออม และการใช้ชีวิตบ้าง
- ความเสี่ยงจากการลงทุน เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง การวางแผนการลงทุนจึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
สุดท้าย เมื่อเราเตรียมสำหรับ “เกษียณฉับพลัน” แล้ว ถ้าไม่เจอ เราก็โชคดี แต่เจอ ก็จะไม่ใช่ “เกษียณฉับพลัน วันเกษมสูญ” แต่จะเป็น “เกษียณก่อน เกษมสุข”