logo
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับสมาคม
  • ประเภท/สิทธิประโยชน์ของสมาชิก
  • เอกสารดาวน์โหลด
  • แหล่งข้อมูล
  • FAQ
  • ติดต่อเรา
Previous Next
แหล่งข้อมูล
  • ประกาศสมาคม
  • ข่าวสมาคม
  • กิจกรรมสมาคม
  • เอกสารเผยแพร่
  • วิดีโอ
  • หน่วยงานพันธมิตร
บทความ: ลงทุน

การลงทุนในหุ้น แตกต่างกับการเล่นหุ้นอย่างไร

โดย คุณมนวิภา อาวิพันธุ์ นักวางแผนการเงิน CFP®

 

หุ้น คือตราสารที่ออกโดยบริษัทเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ การลงทุน หมายถึงการใช้เงินซื้อทรัพย์สินในวันนี้ และหวังว่าทรัพย์สินที่ซื้อจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในอนาคต คำว่าทรัพย์สินจะครอบคลุมทั้งทรัพย์สินที่จับต้องได้ เช่น ที่ดิน ทองคำ และทรัพย์สินที่เป็นเอกสารแสดงสิทธิ์ เช่น พันธบัตร สลากออมสิน ตราสารทางการเงิน หุ้น

 

การซื้อขายทรัพย์สินสามารถทำได้หลายวิธี การซื้อ-ขายที่ดิน ไม่มีสถานที่ซื้อขายแน่นอน ผู้ซื้อ-ผู้ขายนัดทำการซื้อขาย แล้วไปจดทะเบียนที่สำนักงานที่ดิน การซื้อ-ขายทองคำ ทำได้ที่ร้านทอง ในทำนองเดียวกัน การซื้อขายหุ้นทำได้ผ่านกลไกของตลาดหลักทรัพย์ โดยทั่วไปเราเรียกการซื้อขายหุ้นผ่านกลไกตลาดหลักทรัพย์ว่า การลงทุน และมีไม่น้อยที่จะถูกเรียกว่า การเล่นหุ้น

 

ถ้าจะแบ่งการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ตามระยะเวลาในการถือครอง เราอาจแบ่งเป็น 2 แบบ คือ การลงทุนระยะยาวและการลงทุนระยะสั้น

 

ผู้ที่ถือครองหุ้นระยะยาว หวังผลตอบแทนสม่ำเสมอ คาดหวังว่าราคาหุ้นจะสูงขึ้นตามอัตราการเจริญเติบโตของบริษัท (มองราคาหุ้นเป็นเส้นสีแดง) มีการถือครองหุ้นนานเป็นเดือน ปี หรือหลายปี ส่วนใหญ่นักลงทุนประเภทนี้จะถูกเรียกว่า นักลงทุน

 

ในตลาดหุ้น มีปัจจัยมากมายที่มีผลกระทบต่อราคาหุ้น ราคาหุ้นมีการขึ้นลงอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าแนวโน้มระยะยาวราคาหุ้นจะเป็นเช่นไร ในช่วงสั้นๆ ราคาหุ้นจะมีการเคลื่อนไหวแกว่งตัวขึ้นลงไปตาม เหตุการณ์ ข่าวสาร ข้อมูล และความต้องการซื้อ-ขายในเวลานั้นๆ การที่ราคาหุ้นขึ้นหรือลงตลอดเวลานี่เอง มีนักลงทุนบางส่วนเห็นโอกาสในการทำกำไรจากการขึ้น-ลงนี้ โดยหวังผลตอบแทนจากราคาหุ้นที่ขึ้นลงในระยะสั้นๆ อาศัยผลกระทบของเหตุการณ์ ข่าวสาร ที่เวลาปัจจุบัน มากกว่าการอ้างอิงกับแนวโน้มการเจริญเติบโตของบริษัทในระยะยาว เมื่อราคาหุ้นเพิ่มขึ้นถึงระดับที่พอใจ หรือเมื่อหมดผลกระทบ จะขายหุ้นเพื่อทำกำไร และเปลี่ยนไปซื้อหุ้นตัวใหม่ นักลงทุนประเภทนี้จะซื้อขายบ่อยครั้ง ถือหุ้นเพียงไม่กี่วัน หรือในบางครั้งอาจจะซื้อเช้าขายเย็น ถือหุ้นไม่ทันข้ามวัน นักลงทุนประเภทนี้ซื้อมาขายไป เหมือนเล่นขายของ บางวันอาจจะมีการซื้อขายหุ้นตัวเดียวกันหลายครั้ง จึงเป็นที่มาของคำว่า เล่นหุ้น บางครั้งนักลงทุนจะถูกเรียกว่า นักเล่นหุ้น หรือ นักเก็งกำไร (ถ้าเก็งถูก)

 

ปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อผลตอบแทนจากการลงทุน คือ ค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย นอกเหนือจากค่าหุ้นที่จะต้องจ่ายหรือได้รับแล้ว ยังมีค่าธรรมเนียมที่นักลงทุนทุกท่านจะต้องเสียเพิ่ม ไม่ว่าจะซื้อหรือจะขาย เช่นในการซื้อ ต้องจ่ายเงินเท่ากับค่าซื้อ + ค่าธรรมเนียม เมื่อขายหุ้นจะได้รับเงินเท่ากับค่าหุ้น- ค่าธรรมเนียม ถ้ามีการซื้อขายหลายครั้ง ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการซื้อขายหลายรอบ กำไรที่ได้อาจจะน้อยลง ในบางครั้งกำไรที่ได้อาจจะไม่คุ้มกับค่าธรรมเนียมที่ต้องเสีย

 

ในมุมมองของนักเล่นหุ้น (หรือนักลงทุนระยะสั้น) มักคิดว่าในจำนวนเงินเท่าๆ กัน จะมีโอกาสที่จะทำกำไรได้หลายรอบ แต่ละรอบการซื้อขายอาจได้ กำไรไม่มาก แต่ถ้านำผลหลายรอบมารวมกัน ผลตอบแทนที่ได้น่าจะเป็นที่พอใจ แต่ขณะเดียวกันต้องไม่ลืมว่า อาจประสบกับการขาดทุนได้ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนในระยะยาวแล้วโอกาสการขาดทุนจะน้อยกว่า เพราะความผันผวนจะลดลงตามระยะเวลาของการลงทุน

 

ในมุมมองของนักลงทุน การถือครองหุ้นระยะยาว นอกเหนือจากราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น ค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่น้อยกว่าแล้ว ยังมีโอกาสที่จะได้รับสิทธิอื่นๆ อย่างเช่นเงินปันผล และผลตอบแทนโดยรวมที่ได้ก็น่าพอใจเช่นกันด้วย

 

ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนประเภทไหน สิ่งที่ทุกคนจะต้องทำคือ ศึกษาหาความรู้ในสิ่งที่ตัวเองทำอย่างดีที่สุด เพราะสุดท้ายแล้วทุกคนมีวัตถุประสงค์เดียวกัน คือ ผลตอบแทนนั่นเอง

ติดตามข่าวสารของสมาคมได้ทาง

   ประกาศความเป็นส่วนตัวการใช้งานคุ๊กกี้        ประกาศความเป็นส่วนตัว        แผนผังเว็บไซต์
สงวนลิขสิทธิ์ 2560 สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
CFP®,CERTIFIED FINANCIAL PLANNER™, and are trademarks owned outside the U.S. by Financial Planning Standards Board Ltd.
Thai Financial Planners Association is the marks licensing authority for the CFP marks in Thailand, through agreement with FPSB.

สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
ชั้น 6 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
93 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง
กรุงเทพมหานคร 10400

โทรศัพท์: 0 2009 9393
Website: www.tfpa.or.th