logo
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับสมาคม
  • ประเภท/สิทธิประโยชน์ของสมาชิก
  • เอกสารดาวน์โหลด
  • แหล่งข้อมูล
  • FAQ
  • ติดต่อเรา
Previous Next
แหล่งข้อมูล
  • ประกาศสมาคม
  • ข่าวสมาคม
  • กิจกรรมสมาคม
  • เอกสารเผยแพร่
  • วิดีโอ
  • หน่วยงานพันธมิตร
บทความ: บริหารจัดการเงิน

วิธีตรวจดวงชะตาทางการเงิน 3 ด้าน

โดย ยงยุทธ ภาคาเพียร ที่ปรึกษาการเงิน AFPT™

สำหรับปัจจุบันนี้ต้องยอมรับว่า การดูดวงมีความเกี่ยวข้องกับชีวิตของคนไทยทุกยุคทุกสมัย หลายคนที่นิยมดูดวงเพื่อเสริมดวงชะตาของตนเอง เพราะเป็นความเชื่อที่ทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจ โดยมีแนวคิดว่าเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยในการตัดสินใจกับบางสิ่งบางอย่างในชีวิต รวมถึงสร้างความหวังให้กับผู้คนได้ ศาสตร์แห่งการดูดวงได้รับการพัฒนามาอย่างยาวนานตามวัฒนธรรมความเชื่อต่างๆ เช่น ดูดวงไพ่ยิปซี ดูดวงราศี ดูดวงเสี่ยงทาย ดูดวงวันเกิด ดูดวงจากตัวเลขอื่นๆ เป็นต้น ซึ่งการดูดวงโหราศาสตร์ในสมัยโบราณถือได้ว่าเป็นศาสตร์แห่งการดูดวง ในสมัยก่อนใช้ดูดวงตั้งแต่เรื่องบ้านเมืองไปจนถึงชีวิตประจำวัน และยังได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเสริมดวงหน้าที่การงานให้เจริญก้าวหน้าและเสริมอำนาจบารมี เพื่อให้ช่วยเสริมดวงชีวิตให้เจริญรุ่งเรือง ดังนั้นจึงไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าการดูดวงโหราศาสตร์ของไทยเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีความผูกพันกับวิถีชีวิตของคนไทยมาอย่างช้านาน

ดังนั้นบทความนี้ผมจึงอยากนำเรื่องความเชื่อดังกล่าวมาประยุกต์ใช้กับความรู้ความเข้าใจของวิถีการเริ่มต้นวางแผนเงินส่วนบุคคลแบบง่ายๆ ในเรื่องของการตรวจดูสถานะภาพทางการเงินของแต่ละคน ผ่านวิธีการเช็คดวงการเงินแม่นๆ 3 ด้าน คือ 1. สภาพคล่อง 2. หนี้สิน 3. ความมั่งคั่งในอนาคต เปรียบเสมือนเรากำลังพยากรณ์ดูฐานะการเงินของชีวิตเราคร่าวๆ ได้เลย ด้วยเครื่องมืออัตราส่วนทางการเงินส่วนบุคคลสำคัญที่น่าสนใจ เอาล่ะ! ขอเชิญชวนทุกคนมาเช็คดวงการเงินกันได้เลยครับ

1) เช็คดวงการเงิน “ด้านสภาพคล่อง”
1.1) อัตราส่วนสภาพคล่อง (Current Ratio) คือเป็นการดูสินทรัพย์ที่เทียบเท่าเงินสดหรือเปลี่ยเป็นเงินสดได้เร็ว หรือเรียกว่าสินทรัพย์สภาพคล่อง เช่น เงินสด เงินฝากออมทรัพย์ หรือเงินฝากธนาคารประเภทต่างๆ ที่มีอยู่ตอนนี้ว่าสามารถที่จะนำมาจ่ายชำระหนี้ระยะสั้น เช่น ยอดคงค้างหนี้บัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดต่างๆ ได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งสามารถคำนวณได้โดย นำยอดรวมของสินทรัพย์สภาพคล่อง มาหารด้วยหนี้สินระยะสั้น หากได้ค่ามากกว่า 1 เท่า แสดงว่ามีสภาพคล่องดีการเงินไม่ติดขัด แต่ถ้าน้อยกว่านั้นก็ทำนายว่าการเงินมีโอกาสติดขัดสูง อาจไม่มีเงินเพียงพอไปจ่ายชำระหนี้นั้นเอง

1.2) อัตราส่วนสภาพคล่องพื้นฐาน (Basic Liquidity Ratio) จะบอกได้ว่าตอนนี้เรามีเงินสำหรับใช้จ่ายไปได้อีกกี่เดือน หากวันนึงเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้รายได้ของเราได้หยุดลง ซึ่งสามารถคำนวณได้โดยนำ ยอดรวมของสินทรัพย์สภาพคล่องที่มีอยู่ มาหารด้วย ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในแต่ละเดือน ซึ่งค่าที่ได้ควรมากกว่า 3-6 เท่า หรือหมายความว่าควรมีเงินเก็บสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉินอย่างน้อยประมาณ 3-6 เดือนเบื้องต้น

2) เช็คดวงการเงิน “ด้านหนี้สิน”

2.1) อัตราส่วนหนี้สินต่อสินทรัพย์ (Debt to Total Asset Ratio) ซึ่งเราจะใช้เครื่องมือนี้ในการตรวจดูปริมาณหนี้ทั้งหมดที่มีอยู่ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต หนี้บ้านคอนโด หนี้รถ หรือหนี้อื่นๆ ที่มี มาเปรียบเทียบกับสินทรัพย์รวมที่มีอยู่ ทั้งสินทรัพย์สภาพคล่อง สินทรัพย์ลงทุน และสินทรัพย์ใช้ส่วนตัวทั้งหมด คำนวณโดยการ นำหนี้สินไปหารด้วยสินทรัพย์ ค่าที่ได้ ไม่ควรมากกว่า 0.5 เท่า ซึ่งหมายความว่าตัวของเราไม่ควรมีหนี้สินเกิน 50% ของสินทรัพย์ที่มีเพราะจะทำให้ภาระหนี้ที่มีอยู่เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิต ซึ่งเป็นการเสี่ยงมาก หากมีปริมาณหนี้สินล้นพ้นตัว

2.2) อัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้ (Leverage Ratio) สำหรับเครื่องมือนี้จะเป็นอัตราส่วนที่ดูว่ารายรับรวมต่อเดือนที่เรามีอยู่ เพียงพอต่อค่างวดชำระหนี้มากน้อยแค่ไหน เป็นการดูความสามารถในการชำระหนี้คืนนั่นเอง คำนวณโดย นำค่างวดในการชำระหนี้คืนทั้งเดือน หารด้วย รายรับรวมต่อเดือน ซึ่งอัตราส่วนนี้ไม่ควรมีค่าเกิน 0.4 เท่า ซึ่งอาจหมายความว่า ไม่ควรมีภาระในการผ่อนชำระหนี้เกินกว่า 40% ของรายรับ เพราะจะทำให้ภาระหนี้ที่มีอยู่เป็นอุปสรรคต่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและจะส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินในอนาคต

3) เช็คดวงการเงิน “ด้านความมั่งคั่งในอนาคต”

3.1) อัตราส่วนการออม (Saving Ratio) เป็นการตรวจดูว่ามีการเก็บออมเงินเพิ่มเติมมากน้อยเท่าใดเมื่อเทียบกับรายได้ที่เราหามาได้ บ่งบอกถึงนิสัยการเก็บออมเงินเพื่อเป้าหมายในอนาคต ซึ่งคำนวณโดย นำเงินออมไปรวมกับเงินลงทุน แล้วหารด้วยรายได้ที่หามาได้ ค่าผลลัพธ์ที่ได้ควรมากกว่า 0.1 เท่า หรือหมายความว่าเงินออมควรมากกว่า 10% ของรายได้ที่เราหามา เพราะหากเรามีเงินเก็บออมยิ่งมากเท่าใด เป้าหมายของการเก็บออมก็เข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้น ดังนั้นในแต่ละเดือนควรมีเงินออมหรือลงทุนรวมกันอย่างน้อยประมาณ 10% ของรายได้ เพื่อรองรับเป้าหมายในชีวิตและเป็นการเบิกลู่ทางสร้างโอกาสความมั่งคั่งในอนาคต

3.2) อัตราส่วนการลงทุน (Investment Ratio) สินทรัพย์ที่มาจากการลงทุน เช่น หุ้น กองทุน หรือสินทรัพย์การลงทุนรูปแบบต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพิ่มผลตอบแทนมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายการเงินในชีวิต เช่น เงินทุนเพื่อการเกษียณของตนเอง หรือเพิ่มความมั่งคั่งในอนาคต โดยเราจะคำนวณจากการ นำสินทรัพย์เพื่อการลงทุน หารด้วยความมั่งคั่งสุทธิ (ส่วนคงเหลือจากสินทรัพย์ที่มีหักหนี้สินทั้งหมดออก) ควรมีค่าผลลัพธ์มากกว่า 0.5 เท่า หรือมีความหมายถึงการมีสินทรัพย์ลงทุนมากกว่า 50% ของความมั่งคั่งสุทธิ โดยสินทรัพย์ลงทุนที่มีนั้นบ่งบอกถึงการสร้างรายได้ด้วยผลตอบแทนเป็นหลักชี้ให้เห็นถึงเส้นทางความมั่งคั่งของฐานะทางการเงินมุ่งสู่อิสระทางการเงินในอนาคตด้วยเช่นกัน

3.3) อัตราส่วนความมั่งคั่ง (Wealth Ratio) เป็นตัวบ่งชี้ถึงฐานะทางการเงินในอนาคตที่สำคัญอีกเรื่องนึงเช่นกัน โดยดูจากรายได้ที่สร้างโดยสินทรัพย์ที่ไม่ต้องลงแรงทำงาน หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Passive Income ทำให้สินทรัพย์ที่เราครอบครองดังกล่าวเป็นทางหลักในการสร้างรายได้ให้กับเราตลอดไป โดยคำนวณได้จาก นำรายได้ที่มาจากสินทรัพย์โดยไม่ต้องทำงาน (passive income) หารด้วยค่าใช้จ่ายที่มี หากผลลัพธ์มากกว่า 1 เท่า แสดงว่าเรามีสถานะเข้าสู่อิสรภาพทางการเงินแล้ว แต่หากน้อยกว่า 1 ก็หาโอกาสพยายามสร้าง passive income ให้เพิ่มมากขึ้น

สุดท้ายนี้จากที่พาทุกคนไปรู้จักวิธีการตรวจดวงชะตาทางการเงิน 3 ด้านข้างต้นแบบง่ายๆ ผู้เขียนเชื่อว่าทุกคนคงเริ่มเห็นสถานะการเงินของตนเองที่จะเกิดในอนาคตแล้วนะครับว่ามีแนวโน้มเป็นอย่างไร ซึ่งผลลัพธ์ดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญใกล้ตัวเรามากๆ เพราะเราทุกคนนั้นจะต้องเกี่ยวข้องรายได้ รายจ่าย หนี้สิน การบริหารสภาพคล่อง การเก็บออมลงทุน เพื่อสร้างความมั่งคั่ง และก็ตัวท่านนั้นแหละที่จะเป็นผู้นำชีวิตการเงินที่ดีให้กับตัวเองในอนาคต จึงอยากให้บทความนี้เป็นแรงบันดาลใจ ใช้เป็นจุดเริ่มต้นของการหันมาเริ่มให้ความสำคัญกับการวางแผนตรวจดูฐานะการเงินของตัวเองเพื่อเป้าหมายชีวิตการเงินที่ดีของทุกคน

 

ติดตามความรู้และข่าวสารสมาคมนักวางแผนการเงินไทย ได้ที่ LINE@cfpthailand, สมาคมนักวางแผนการเงินไทย Facebook Fanpage และ www.tfpa.or.th

ติดตามข่าวสารของสมาคมได้ทาง

   ประกาศความเป็นส่วนตัวการใช้งานคุ๊กกี้        ประกาศความเป็นส่วนตัว        แผนผังเว็บไซต์
สงวนลิขสิทธิ์ 2560 สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
CFP®,CERTIFIED FINANCIAL PLANNER™, and are trademarks owned outside the U.S. by Financial Planning Standards Board Ltd.
Thai Financial Planners Association is the marks licensing authority for the CFP marks in Thailand, through agreement with FPSB.

สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
ชั้น 6 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
93 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง
กรุงเทพมหานคร 10400

โทรศัพท์: 0 2009 9393
Website: www.tfpa.or.th